การเลี้ยงดูลูกของคุณพ่อคุณแม่แต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน แต่จะคาดหวังไปในทิศทางเดียวกัน
นั่นก็คือ การได้เห็นลูกๆ มีอนาคตและชีวิตที่ดี วันนี้เรามี 8 กลยุทธ์
สำหรับเตรียมไว้ให้ลูก ให้มีอนาคตดีแบบเชิงบวก โดยเริ่มจากการเลี้ยงลูกที่ใช้ความเข้าใจ
ถ้าอย ากให้ลูกมีอนาคตที่ดีด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่การบังคับใจของเขา ลองนำวิธีต่อไปนี้ไปใช้ดูนะ
1. รับฟังความคิดเห็น และส่งต่อคำแนะนำให้ลูก
ในบางครั้งอาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็เเล้วแต่ ก็อย ากจะให้คุณพ่อคุณคุณแม่ลองเปิดใจรับฟังความคิดเห็น
ในมุมมองของลูกก่อนว่าเขาคิดอะไรอยู่ เเละเปลี่ยนจากบั งคั บมาเป็นให้คำแนะนำดีๆ
แทน เพียงเท่านี้ปั ญห าต่างๆก็จะค ลี่คล ายลงได้
สิ่งที่ลูกต้องการมากสุด ไม่ใช่เงินทองที่มากมายก่ าย ก อง
แต่กลับเป็นเพียงแค่ความเข้าใจเล็กๆของ ครอบครัวที่ยอมรับได้อย่ างเต็มอกเต็มใจในสิ่งที่ลูกเราชอบ
และสิ่งที่เขาอย ากจะเป็นอีกในอนาคต รวมไปถึงการที่พ่อเเม่คอยสนับสนุนให้เขาได้เดิน
ไปจนสุดปลายทางในทางที่ตัวเขาเองได้เลือ กเดิน
ไม่ว่าผลข้างหน้าจะเป็นอย่ างไรก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะลูกๆจะสามารถผ่านมันไปได้อย่ างแน่นอน
แม้ว่าเส้นทางนั้นจะหนักหนาส าหั สสั กแค่ไหนก็ต าม ขอแค่มีครอบครัวอยู่เคียงข้างพวกเขาก็พอ
2. พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
ทักษะในการสื่อส า รที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ มีความสำคัญมากในการใช้ชีวิตของลูก เพราะถ้าหากพ่อแม่
สื่อส า รกับลูกแบบที่ไม่เข้าใจกัน จะทำให้เกิดปั ญห าและเกิดความไม่เข้าใจ หรือถึงขั้นเข้าใจผิ ดได้
ดังนั้น คำพูดของคุณพ่อคุณแม่จึงมีความสำคัญต่อความคิดของลูก ที่ส่งผลให้เห็นได้อ ย่ างชัดเจนในอนาคต
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อใดที่เราสั่งสอนลูก ต้องไม่ใช้อารมณ์ ไม่ตำห นิไปที่ตัวตนของลูก
จนเขารู้สึกว่าตัวเขาเองนั้นไม่มีค่าอะไร
3. ใช้ความสงบ สย บความเคลื่อนไหว
เมื่อลูกเริ่มเ กเ รหรือง อแ ง คุณพ่อคุณแม่จงใช้ความเงียบสงบโดยไม่ต้องไปสนใจลูก วิธีนี้จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ว่า
ถ้าเขาทำแบบนี้อีก เขาจะถูกคุณแม่เมิ นและไม่สนใจเลย วิ ธีนี้ช่วยให้เ ด็ ก ไม่ทำต ามใจตัวเองหรือเอาแต่ใจตัวเอง
4. พ่อแม่เป็นอ ย่ างไร ลูกเป็นอ ย่ างนั้น
ลูกมักจะชอบเลียนแบบพฤติก ร ร มของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็กๆ
ดังนั้นคุรพ่อคุณแม่จึงไม่ควรที่จะท ะ เ ล า ะกันให้ลูกเห็น รวมทั้งพูดคำหย าบกันต่อหน้าลูก
เพราะลูกจะจำได้อย่ างแม่นยำ เเล้วอาจส่งผลต่อพฤติก ร ร ม ของลูกในอนาคตอีกด้วย
การเว้นระยะห่างของพ่อแม่กับลูก จึงมีความสำคัญอ ย่ างมาก
เพราะลูกจะได้มีพื้นที่ในการใช้ชีวิตได้แบบเต็มที่ของเขาเอง
5. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ของลูกก็สำคัญเสมอ
คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่หลักๆในการสนับสนุนเรื่องเล็กๆ รวมถึงเรื่องใหญ่ๆของลูกเสมอ
โดยอาศัยความเข้าใจกัน และกันภายในครอบครัวนั่นเอง เป็นการบ่งบอ กถึงการเอ าใจใส่
และแคร์ความรู้สึกของลูก แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็น แค่เรื่องเล็กที่สำคัญไม่มากก็ต าม ลูกจะรู้สึกไว้วางใจพ่อแม่
และเล่าเรื่องที่มีความสำคัญๆ ขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ในชีวิตของเขาให้เราฟังในอนาคตนั่นเอง
6. คิดตามเหตุ ได้ตามผล
การฝึกให้ลูกได้คิดและได้ทำตามเหตุผลเป็นหลัก จะช่วยสร้างส่วนส ม อ งให้ลูกรู้จักคิดและตัดสินใจภายใต้เหตุผล
โดยไม่ทำตามอารมณ์ เมื่อลูกโตขึ้นแล้วเขาจะสามารถจัดการอารมณ์และค วบคุ มพฤติก ร ร มของตนเองได้ และจะ
ส่งผลต่อเนื่องกล า ยไปเป็นพฤติก ร ร มในระยะย าวของลูกอีกด้วย ผลที่ตามมาอาจจะดีหรือร้ า ยนั้นก็ขึ้นอยู่กับ
วิธีการคิด มุมมอง หรือพฤติก ร ร มในการปฏิบัติตัวของลูกเรานั่นเอง
7. ทุกคนมีสิ่งที่ต้องรับผิ ดชอบ
ความรับผิ ดชอบเป็นสิ่งที่ทุกคนนั้นต้องมี การสอนลูกให้มีความรับผิ ดชอบแบบง่ายๆเลย เช่น การพาลูกอาบน้ำให้ตรงเวลา
การช่วยคุณแม่เตรียมอ า ห า ร การเลี้ ยงสั ต ว์ การเก็บที่นอนเมื่อตื่นนอนตอนเช้า เป็นต้น จะทำให้เมื่อเขาโตขึ้นจะมีสิ่งนี้
ที่ต้องรับผิ ดชอบ เขาจะได้จัดแบ่งความสำคัญและเวลาได้อ ย่ างลงตัวด้วย
8. จงเชื่อในสิ่งที่ลูกอย ากเป็น เคียงข้าง และคอยสนับสนุนเขา
จงเชื่อในสิ่งที่ลูกเราได้เลือ กด้วยตัวของเขาเอง แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจในทางที่ถูกได้เลือ กเดิน
แต่อย ากให้ยอมรับและคอยสนับสนุนเขาในทุกทางที่ลูกได้เลือ ก ด้วยตัวเองจะดีกว่า และคุณพ่อคุณแม่เองนั้นก็ต้อง
เปิดใจให้กว้างๆ และยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ ที่รออยู่ในอนาคตของเขาด้วย
ขอบคุณ : pa r e n t s o n e