
สำหรับเหล่าวัยรุ่น ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ หลายคนมีความคิดที่จะสร้างรากฐานที่ดีให้ชีวิตแน่นอนว่าการสร้างรากฐาน
ที่มั่นคงในชีวิต ไม่มีทางลัดยิ่งเริ่มเร็วแค่ไหนยิ่งได้เปรียบและมีโอกาสประสบความสำเร็จได้เร็วกว่า แต่ก่อนที่จะไปได้
ถึงจุดนั้นการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งการวางแผนนี่แหละจะเป็นตัวช่วยให้เรา
มีกฏระเบียบในการเก็บออมเงิน และเริ่มเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้นการวางแผนทางการเงินไม่ใช่ทางลัด แต่จะเป็นตัวช่วย
ในการลดระยะเวลาในการเก็บออมเงิน เพื่อให้คุณเป็นวัยรุ่นสร้างตัวที่ประสบความสำเร็จและช่วยลดข้อผิดพลาดได้
1. การสร้างครอบครัว
ควรเก็บเงินก้อน สำหรับการสร้างครอบครัว โดยเฉพาะ เพราะการจัดงานแต่งงานสักครั้งอาจจะใช้เงินสูงถึง
หลักแสนเลยทีเดียว รวมทั้งควรเตรียมความพร้อมทั้งค่าคอด ค่าเลี้ยงดูควรมีรายได้สม่ำเสมอ ล ง ทุ นเป็นอีกหนึ่ง
ทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้เงินงอกเงยและสามารถสร้างความมั่นคงได้เลยทีเดียว เริ่มลงทุนง่าย ๆ ด้วยการเก็บเงิน 10-15 %
จากรายได้ทั้งหมดต่อเดือนเพื่อนำมาต่อยอดล ง ทุ น ซึ่งการลงทุนแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป
ควรเช็คความพร้อมของตัวเองให้ดี การวางแผนการใช้เงินสำหรับวัยรุ่นนี้.. เป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้าม
ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจในทุกวันนี้แล้วยิ่งต้องวางแผนให้ดี ซึ่งการวางแผนการเงินนี้ จะช่วยให้เราเห็นเป้าหมาย
ระมัดระวังการใช้เงิน และกำหนดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
2. กำหนดรายจ่าย
ค่าใช้จ่ายรายเดือน ทั้งหลาย ก็ต้องลิสต์ไว้ด้วย การเช็คลิสต์และ แบ่งหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายต่างๆจะช่วยให้เราระมัด
ระวังการใช้เงิน และกำหนดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนมากขึ้นซึ่งค่าใช้จ่ายใหญ่ ๆ แบ่งตามหมวดได้ ดังนี้ค่าผ่อนรถ
ค่าผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
3. วางแผนการใช้เงิน
ก่อนจะวางเป้าหมาย การใช้เงินเพื่อ สร้างรากฐาน ควรวางลำดับเป้าหมาย และกำหนดระยะเวลาในการใช้เงินก่อนโดย
การวางแผนการใช้เงินด้วยช่วงอายุว่าช่วงอายุเท่าไหร่มีเป้าหมายจะมีอะไร เป็นของตัวเอง เช่นช่วงอายุ 25 ปี
เริ่มดาวน์รถในราคา 1 แสนบาท เป็นต้นซึ่งการกำหนด เป้าหมายเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรกดดันตัวเองมากเกินไป
โดยเป้าหมายของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ออกไปไม่ว่า จะเป็นบ้าน, คอนโด การดาวน์บ้านหรือคอนโดควรมีเงินเก็บ
จำนวนหนึ่ง โดยปกติแล้ว ควรมีสำรองไว้ ประมาณ 15-20% ซึ่งการเลือกบ้านหรือคอนโดสักแห่ง ไม่ควรเลือกที่เกินกำลัง
ผ่อนต่อเดือน โดยปกติแล้ว การผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ใน แต่ละเดือนรถ ปกติแล้วต้องมีเงินดาวน์
ไม่ต่ำกว่า 20% ของราคารถและควรคำนึงถึงราคาที่ผ่อนรายเดือนด้วย ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
การจะผ่อนที่ราคาสูง ควรเช็คสภาพการเงินของตนเองให้ดี และไม่ควรเลือกราคาเกินตัว
4. ออมเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน
เป็นเงินออมที่เก็บแยก ออกมาจากข้อแรกนั่น ก็คือเงินออมไว้เพื่อย ามฉุกเฉินเชื่อว่าหลายคนอาจมองข้าม
การเก็บเงินไว้ สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน ควรเก็บเงินไว้เพื่อใช้ในส่วนนี้ ประมาณ 5-10% จากรายได้ทั้งหมด
การมีเงินในส่วนนี้จะช่วยให้อุ่นใจ เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่ารักษาพาบ าล
รวมถึงสำรองไว้เมื่อต้องโยกย้ายงาน ฯลฯ เก็บเงินส่วนนี้ตั้งแต่เนิ่นๆเวลามีเหตุ ฉุกเฉิน จะได้ไม่เดือดร้อน
ไปถึงเงินออมของเรา
5. แบ่งเงินไว้เก็บ
การวางแผน การเงินเป็นเรื่องสำคัญ ขั้นนี้ คือพื้นฐานในการเก็บออมเงิน คือ ารวางแผนรายรับ-รายจ่ายให้ดี
เชื่อว่า หลายคนอาจมองข้ามการทำบัญชีรายจ่ายส่วนตัว เป็นวิธีที่จะช่วยให้เราระมัดระวัง
การใช้จ่ายได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ได้เงินเดือนมาอันดับแรก ก็ทำการแยกบางส่วน
ไปไว้ในบัญชีเงินออม อาจจะแบ่งมาประมาณ 15-20% ของรายได้ แล้วส่วนที่เหลือก็คือ
ส่วนที่ไว้ใช้ ในชีวิตประจำวัน หรือกำหนดค่าใช้จ่า ยต่อวันว่าวันนึง จะใช้จ่ายเท่าไหร่ เป็นต้น
6. หารายได้ช่องทางอื่นบ้าง
ในยุคที่สื่อสังคมออนไลน์ เป็นที่นิยม และคนไทยในปัจจุบันนิยมซื้อ ข า ย
ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นส่วนใหญ่แล้ว การสร้างรายได้ จากช่องทางออนไลน์
ถือว่าเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งย าก และใช้ต้นทุนต่ำกว่า ยุคก่อนๆ เชื่อว่า วัยรุ่นยุคใหม่ทุกคน
ต่างคุ้นเคยกับสื่อออนไลน์ เป็นอย่างดี ซึ่งช่องทางนี้แหละครับที่จะเป็นรายได้เสริมนอก
เหนือจาก งานประจำได้ บางคนสามารถหารายได้ จากการซื้อ ข า ย ของออนไลน์
ได้รายได้เท่ากับ เงินเดือนประจำ หรือมากกว่าได้เลยทีเดียว รวมถึงสามารถ
รับงานฟรีแลนซ์ เพื่อสร้างรายได้เสริม ได้อีกช่องทางหนึ่ง
เช่น งานกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ ฟรีแลนซ์งานเขียน ฟรีแลนซ์ ฯลฯ
ขอบคุณ : e-y h a n g w a