เย เมียว ซอ ( คนงานก่อสร้าง ) เผยว่า.. อย ากหาเงินเพิ่มขึ้น เอาไว้ลงทุนทำธุรกิจ เพราะ ตอนนี้ที่ พ ม่ า กำลังเปิดประเทศ
เศรฐกิจกำลังขย ายตัว ใครมีทุนเยอะกว่าก็มีโอกาสมากกว่า
เปีย เปียง โซ ( แม่บ้านทำความสะอาด ) กล่าวว่า.. มาทำงานหาเงินใช้หนี้ให้พ่อแม่ หนี้เยอะมาก
อยู่บ้านหาเงินได้น้อยงาน ไม่มีให้ทำทุกวัน แต่ที่นี่ ขอแค่ขยันหน่อย ไม่เลือกงาน ก็มีงานให้ทำเยอะ เงินดี
หากแปลงอัตราค่าเงินแล้วไปใช้จ่ายที่โน้น ของจะดูราคาถูกลงขึ้นมาทันที และ ใช้หนี้ได้หมดภายใน 1 ปี
โส่ย ( ลูกจ้างโรงงาน ) เล่าว่า.. มาทำงานที่ ไ ท ย เพราะ รายได้ดี มีงานให้ทำมากกว่า และ กำลังหาเงินส่งลูกเรียนมหาวิทย าลัย เรียนด้านเภสัช
6 เคล็ดลับ เก็บเงิน 2 ปี มีเงินซื้อ บ้าน-รถ ของพวกเขา
1. ไม่ค่อยใช้เงินซื้อความสุขเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทาง แต่เก็บเงินเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
ความสุขเล็กๆน้อย เช่น ซื้อเสื้อผ้า ช็อปปิ้ง ซื้อมือถือ ดูหนัง กินบุฟเฟ่ต์แพงๆ ไปท่องเที่ยว
แล้วอัปเดทชีวิตด้วยรูปหรูๆ ลงในโ ซเชี ย ล สิ่งเหล่านั้นเป็นของที่ทำให้เรามีความสุขจริง ( แต่แค่ความสุขเพียงระยะสั้น ) ไม่ใช่ความสุขถาวร ไม่นานเราก็ต้องโหยหามันอีก
ก็ไม่พ้ น การกลับไปทำงานเก็บเงิน แล้วเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย วนเวียนอยู่แบบนี้
แต่จะแบบไหนมันก็ไม่ผิดหรอก ต่างคนต่างความคิดกัน ความสุขต่างกัน แต่แค่จะทำให้เงินเก็บเราน้อยลง และ ลำบ ากมากขึ้นในอนาคตข้างหน้าเท่านั้นเอง
2. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
หากได้ไปตามติดชีวิตพวกเขาดู จะรู้เลยว่าความเป็นอยู่ของพวกเขานั้น กินง่าย อยู่ง่าย
เช่าห้องพักแบบแค่พอนอนหลับ พวกผ่อน เพราะ พวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าแค่ที่นอน และ ห้องน้ำ เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาคือ ทำงาน และ ทำงาน อย่างเอาจริงเอาจังมากๆ
ห้อง 1 ห้อง ที่เราอยู่ได้แค่ 1-2 คน พวกเขาอาจอยู่อาศัยกัน 4-5 คน เลย ยิ่งอยู่กันเยอะ
ยิ่งมีคนช่วยหารค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ และ ซื้อกับข้าวมาตั้งวงกินรวมกัน ประหยัดค่าอาหารไปในตัวด้วย
3. ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีเงินจริงๆ
จะเก็บเงินได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาเงินไปไว้ที่ไหน เพราะ เงินมันไม่มีขา
มันเดินออกจากกระเป๋าเราเองไม่ได้ หมายความว่า.. พวกเขาจะไม่ยอมส่งเงินที่หามาได้ด้วยความย ากลำบ ากไปให้อยู่ในกระเป๋าคนอื่นได้โดยง่าย เช่น การไปซื้อของใช้ราคาแพง ซื้อของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นมาใช้
ในทุกๆ เดือนพวกเขาจะส่งเงินกลับบ้านเกิดเพื่อนำไปเก็บไว้ตลอด และ เก็บติดตัวไว้เพียงเล็กน้อยเพื่อใช้จ่ายต่อเดือนเท่านั้น ยิ่งเห็นว่าเงินมีน้อยก็ยิ่งเป็นการกดดันให้ตัวเองต้องประหยัด และ ขยันมากขึ้น
4. ความกตัญญู คืออีกปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ
อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือ ความกตัญญู การส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวที่จากมา เพื่อชีวิตพวกเขาจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น ส่งเงินกลับไปให้ พ่อ-แม่ ปลูกบ้านหลังใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
หรือ บางคนส่งเงินกลับไปให้ทางบ้านเพื่อไปซื้อรถบรรทุกขนส่งข้าว
ไว้ใช้รับจ้างคนในหมู่บ้าน เป็นการนำเงินไปต่อยอด ให้ทางบ้านมีงานทำ มีรายได้เพิ่มอีกทางไปในตัว
5. แนวคิดการเก็บเงินเป็นสิ่งของ
เก็บเงินเป็นสิ่งของ เงินไม่หายไปไหน เป้าหมายอยู่ครบ สังเกตไหมว่าทุกเทศกาล
หรือ หยุดย าว พวกเขาจะหอมข้าวหอบของเดินทางกลับบ้านเกิดทีละมากๆ เพราะ พวกเขาทยอยซื้อสะสมไว้ ของบางชิ้นจึงซื้อเก็บไว้สองปีกว่าจะได้หอบหิ้วกลับก็มี
เพราะ การเห็นเงินมากๆ ก็อาจจะทำให้เราเผลอใช้จ่ายง่ายๆ เจออะไรก็อย ากได้ไปหมด
จนกระทั่งเงินหมดแล้วไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลับมา ซึ่งการเก็บเงินในรูปแบบสิ่งของที่ได้ใช้ประโยชน์ และ จับต้องได้
6. สะสมความมั่งคั่งด้วย “ ทองคำ ”
ท อ ง ไ ท ย ไม่ได้ไป พ ม่ า คร าวเสี ย กรุงศรี แต่จะไปในช่วงนี้แหละ
เพราะ ทองคำแบรนด์เรามีเปอร์เซ็นต์ทองสูงกว่า ช า ว พ ม่ า จึงนิยมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน หากสังเกตดีๆ ร้านทองบางแห่งก็ติดประกาศเป็น ภ า ษ า พ ม่ า ด้วย
อีกทั้งทองยิ่งเก็บไว้ยิ่งมีมูลค่า มีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนเก็บเงินสด ที่มีแต่จะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้ง ซื้อ-ขาย แปลงเป็นเงินสดได้ง่าย จึงเป็นอีกทางเลือกที่พวกเขานิยม
สำหรับพวกเขาแล้ว วิธีอวดรวยของเขา อาจไม่ใช่ เที่ยวบ่อยแค่ไหน
กินของแพงเท่าไร ใช้ของแบรนเนมทั้งตัวมั้ย หากแต่เป็นการ มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเล็กๆ สัก สอง สาม อย่าง เป็นของตนเอง สิ่งเหล่านี้ต่างหาก คือสิ่งอวดรวยของพวกเขา
เป็นการทำงานอย่างมีเป้าหมาย และ วินัยอย่างสูง เพื่อพลิกชีวิต และ ฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
นับว่าน่าชื่นชม และ นำมาเป็นแบบอย่าง
ขอขอบคุณ : b i t c o r e t e c h