
1. รู้จักประมาณตนในการใช้จ่าย
ก่อนที่จะควักเงิน ออกจากกระเป๋าแต่ละที ควรคิดให้ดีดีก่อนครับว่าสิ่งที่เรากำลังจะแลกมานั้นมัน
มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ถ้าสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้องอย่าง ข้าว ส าร อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม ฯลฯ
ของแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพหลายครอบครัวอาจไว้จะมีซื้อมาตุนไว้ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดี (แต่ระวังของหมดอายุด้วยนะครับ) ส่วนสิ่งของที่เป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า
สินค้าไอทีต่างๆ พวกนี้อาจจะต้องคิดสักหน่อยก่อนซื้อ เพราะบางอย่างก็อาจจะไม่จำเป็น
2. นำของเก่ามาทำเป็นของใหม่
ต่อเนื่อง จากข้อแรกครับ ที่บอกว่าให้ซื้อแต่สิ่งที่จำเป็น สำรวจดูในบ้านบ้างครับว่าสิ่งของชิ้นไหนที่ยังพอใช้ได้
แต่สภาพเก่าไปบ้างก็ไม่เป็นไร นำมาซ่อมแซมหรือดัดแปลงให้มันใช้งานได้หลากหลาย
ขึ้นจะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อ แถมยังได้ของใหม่ที่ทำขึ้นเองด้วยครับ
3. ติดตามส่วนลด โ ป ร โ ม ชั่ น ดีดี
ถ้าจะซื้ออะไรสักอย่างแล้ว เลือกซื้อที่มีรายการส่วนลดด้วยนั้น จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋า
ของเราได้บ้างหรือถ้าใครที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นประจำ ก็จะมีโปรโมชั่นเสริมต่างๆ มากมาย
เช่น สะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลและส่วนลด ฟรีค่าที่พักค่าเดินทาง
ค่าเครื่องบิน ตามแต่ละประเภทของบัตรและสินค้าที่ร่วมรายการ
4. ทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน
หลายคนอาจจะคิดว่า การทำบัญชีนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย ที่จริงแล้วมีผลนะบัญชีทำให้เรารู้ว่า
เรามีรายรับอะไรเท่าไหร่บ้าง มีรายจ่ายหมดไปกับสินค้าบริการ ประเภทไหนบ้างและเรามีภาระที่ต้องชำระค่าอะไรบ้างสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องเตือนสติไม่ให้เราใช้จ่ายเงินจนเกินตัวโดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
เมื่อเราเห็นภาพรวมของการเงิน ของเราแล้ว ก็จะทำให้เรามีการวางแผนทางการเงินที่ดีขึ้น
5. หันมาผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน
หากที่บ้านไหนมีพื้นที่ว่างๆ สนามหญ้าหลังบ้านหรือหน้าบ้านเล็กๆ อาจจะลองนำเอาเมล็ดพัน ธุ์ ผัก ป ล อ ด ส า ร พิ ษ ต่างๆ
ไปปลูกดูดั่งคำพูดที่ว่ากินทุกอย่าง ที่ปลูกและปลูกทุกอย่างที่กินจะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องซื้อผักจากตลาดแถมยังจะได้ผักที่สดสะอาดมั่นใจได้ว่าปลอดภัย
6. หารายได้เสริม
จากวันว่าง หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ช่วยๆกันในครอบครัวครับ พ่อ แม่ ลูก ลองคิดว่าจะช่วยกันทำอย่างไร
เพื่อให้มีรายรับเพิ่มเข้ามา อาจจะช่วยกันทำขนมหรือทำอาหารนำผักที่ปลูกไปขายที่ตลาด หรือคุณแม่บ้านอาจจะมีอาชีพเสริม เช่น การเย็บปักถักร้อย,ทำตุ๊กตา,
ทำงานฝีมือแล้วให้ลูกๆ ช่วยเรื่องการถ่ายภาพจัดตกแต่งลงโพสต์ขายใน อ อ นไ ล น์ ต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมอีกมายมายที่ให้เลือกตามความถนัด และตามความสามารถของแต่ละคนอย่างรับสอนพิเศษ
รับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักแปลภาษาเป็นไกด์ทัวร์นำเที่ยวช่วงเทศกาลและวันหยุด ฯลฯ เป็นต้น
7. สร้างนิสัยรักการเก็บออม
สำหรับผมแล้วเป็นคนที่ชอบออมเงิน และมีวิธีการในการออมดังนี้ครับ ถ้ามีรายได้เข้ามาผมจะแบ่งเก็บออมไว้เลย 10-20 % จากนั้น
เวลาที่เราได้รับเงินโบนัสหรือส่วนลด เมื่อซื้อสินค้ารายได้เสริมและรายได้พิเศษต่างๆ
ผมก็จะเก็บไว้เป็นเงินออมและเป็นเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินครับ
แรกๆ มันก็อาจจะย ากนิดหน่อยตรง ที่เราต้องมีสติควบคุมจิตใจของตนเองและมีวินัยในการใช้เงินมากขึ้นแต่พอทำ
ไปสักพักเราก็จะเริ่มติดเป็นนิสัยจนทุกวันนี้ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องย ากอีกต่อไปแล้ว
ขอขอบคุณ : f o r l i f e t h